theme-sticky-logo-alt

วิธีแก้ไขคอมพิวเตอร์ที่กระตุก

บทนำ

คอมพิวเตอร์ที่กระตุกสามารถทำให้หงุดหงิดมาก ขัดขวางการทำงานหรือทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมเสียหาย เป็นปัญหาทั่วไปที่หลายคนประสบ แต่โชคดีที่มีหลายวิธีในการวินิจฉัยและแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ บล็อกนี้จะนำคุณผ่านการทำความเข้าใจสาเหตุของการกระตุกของคอมพิวเตอร์และให้วิธีแก้ไขที่ใช้ได้ทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้เรายังจะแบ่งปันเคล็ดลับการปรับแต่งขั้นสูงและมาตรการป้องกันเพื่อให้คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานได้อย่างราบรื่น

คอมพิวเตอร์กระตุกคืออะไร?

การกระตุกของคอมพิวเตอร์หมายถึงการหยุดชะงักหรือชะงักเป็นระยะๆ ซึ่งคอมพิวเตอร์จะหยุดนิ่งหรือไม่ตอบสนองชั่วขณะ ในช่วงที่กระตุกเหล่านี้ คอมพิวเตอร์ของคุณอาจไม่ตอบสนองหรือช้าในการรับรู้คำสั่ง ซึ่งปัญหานี้อาจเกิดขึ้นในกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่นเกม การดูวิดีโอ หรือแม้กระทั่งงานง่ายๆ อย่างการท่องเว็บ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ในการใช้งาน

สาเหตุทั่วไปของการกระตุกของคอมพิวเตอร์

การเข้าใจสาเหตุของการกระตุกของคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งสำคัญในการหาวิธีแก้ไขปัญหา มีหลายปัจจัยที่สามารถทำให้เกิดปัญหานี้ได้:

  1. ไดรเวอร์ที่ล้าสมัยหรือเสียหาย: ไดรเวอร์ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ไดรเวอร์ที่ล้าสมัยหรือเสียหายสามารถทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน รวมถึงการกระตุก
  2. มัลแวร์และไวรัส: ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายสามารถใช้ทรัพยากรระบบ ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้าลง
  3. กระบวนการพื้นหลังจำนวนมาก: กระบวนการที่ทำงานจำนวนมากเกินไปสามารถเพิ่มภาระให้กับ CPU และ RAM ทำให้เกิดการกระตุก

การระบุและแก้ไขปัญหาเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์และลดการกระตุกได้มาก

วิธีแก้ไขซอฟต์แวร์

ก่อนที่จะเข้าสู่การแก้ไขฮาร์ดแวร์ คุณควรลองวิธีแก้ไขซอฟต์แวร์หลายประการเพื่อลดปัญหาการกระตุก

การอัปเดตหรือการติดตั้งไดรเวอร์ใหม่

  1. เข้าถึง Device Manager: คลิกขวาที่ปุ่ม Start และเลือก Device Manager
  2. ค้นหาอุปกรณ์: ค้นหาประเภทอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของคุณ (เช่น กราฟิก เสียง เครือข่าย)
  3. อัปเดตไดรเวอร์: คลิกขวาที่อุปกรณ์และเลือก ‘Update driver’ และทำตามคำแนะนำเพื่ออัปเดตไดรเวอร์

การตรวจสอบการอัปเดตไดรเวอร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ทุกส่วนทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงของการกระตุก

การตรวจสอบมัลแวร์และไวรัส

  1. รันการสแกนระบบทั้งหมด: ใช้ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของคุณเพื่อรันการสแกนที่ละเอียด
  2. การลบ: หากการสแกนตรวจพบภัยคุกคาม ให้ทำตามคำแนะนำของซอฟต์แวร์เพื่อกักกันและลบโปรแกรมที่เป็นอันตรายออก

การทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณปราศจากมัลแวร์และไวรัสสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมาก

การจัดการกระบวนการพื้นหลัง

  1. เปิด Task Manager: กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager
  2. ปิดกระบวนการที่ไม่จำเป็น: ไปที่แท็บ Processes และสิ้นสุดกระบวนการที่ใช้ CPU หรือหน่วยความจำอย่างไม่จำเป็น

การจัดการกระบวนการพื้นหลังสามารถช่วยเพิ่มทรัพยากร ลดโอกาสการกระตุก

วิธีแก้ไขคอมพิวเตอร์ที่กำลังสะดุด

วิธีแก้ไขฮาร์ดแวร์

ถ้าวิธีแก้ไขซอฟต์แวร์ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ คุณอาจต้องดูวิธีการแก้ไขที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์

การตรวจสอบฮาร์ดไดรฟ์และพื้นที่จัดเก็บ

  1. เพิ่มพื้นที่ว่าง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีพื้นที่ว่างเพียงพอบนไดรฟ์หลักของคุณ คำนึงถึงอย่างน้อย 20% ของความจุทั้งหมด
  2. ตรวจสอบสถานภาพของฮาร์ดไดรฟ์: ใช้เครื่องมือในตัวเช่น ‘chkdsk’ ใน Windows หรือเครื่องมือของบุคคลที่สามเพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของฮาร์ดไดรฟ์

การมีพื้นที่ว่างเพียงพอและฮาร์ดไดรฟ์ที่มีสุขภาพดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำงานที่ราบรื่น

การตรวจสอบสถานภาพของ RAM

  1. รันการวินิจฉัยหน่วยความจำ: ใช้เครื่องมือ Windows Memory Diagnostic เพื่อตรวจสอบปัญหาของ RAM
  2. ตรวจสอบ RAM จริง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแถบ RAM ถูกเสียบอยู่ในช่องอย่างถูกต้อง

RAM ที่เสียหายหรือไม่ได้ติดตั้งอย่างถูกต้องอาจเป็นสาเหตุหลักของการกระตุกของคอมพิวเตอร์

การตรวจสอบระบบระบายความร้อน

  1. ตรวจสอบพัดลมและฮีทซิงค์: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพัดลมและฮีทซิงค์ของคุณปลอดฝุ่นและเศษซาก
  2. ตรวจสอบอุณหภูมิ: ใช้ซอฟต์แวร์เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิของระบบของคุณให้แน่ใจว่าอยู่ในขีดจำกัดที่ปลอดภัย

การระบายความร้อนที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพที่ดีที่สุดและป้องกันการกระตุก

เคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพ

บางครั้งการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอมพิวเตอร์ของคุณสามารถแก้หรือป้องกันปัญหาการกระตุกได้

การล้างและจัดเรียงดิสก์

  1. รัน Disk Cleanup: ค้นหา ‘Disk Cleanup’ ในเมนู Start และทำตามคำแนะนำเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่าง
  2. จัดเรียงดิสก์: เปิด ‘Defragment and Optimize Drives’ จากเมนู Start และเพิ่มประสิทธิภาพไดรฟ์ของคุณ

การเพิ่มหน่วยความจำเสมือน

  1. ปรับการตั้งค่าหน่วยความจำเสมือน: ไปที่ System Properties > Performance Settings > Advanced tab > Virtual Memory และเพิ่มขนาดตามคำแนะนำ

การปรับการตั้งค่ากราฟิก

  1. ลดการตั้งค่ากราฟิก: ในเกมและแอปพลิเคชันที่ใช้กราฟิกมาก ให้ลดการตั้งค่าเพื่อลดภาระของ CPU และ GPU
  2. อัปเดตแพตช์ของเกมและแอป: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโปรแกรมของคุณถูกอัปเดตด้วยแพตช์ล่าสุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

ขั้นตอนการวิเคราะห์เชิงลึก

หากทิปและการเพิ่มประสิทธิภาพพื้นฐานไม่สามารถแก้ปัญหาการกระตุกได้ ขั้นตอนการวิเคราะห์เชิงลึกอาจช่วยได้

การใช้ Safe Mode

  1. บูทเข้าสู่ Safe Mode: รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณและกด F8 ก่อนที่ Windows จะโหลดเพื่อเข้าสู่ Safe Mode
  2. การวิเคราะห์ปัญหา: ใน Safe Mode รันคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบว่าการกระตุกยังคงมีอยู่หรือไม่

การคืนค่าสภาพของระบบ

  1. เปิด System Restore: ค้นหา ‘System Restore’ ในเมนู Start
  2. เลือกจุดคืนค่า: เลือกจุดคืนค่าที่ต้องการและทำตามคำแนะนำ

การรันเครื่องมือวิเคราะห์

  1. ใช้เครื่องมือในตัว: ใช้เครื่องมือในตัว เช่น ‘sfc /scannow’ และ ‘DISM’ เพื่อตรวจสอบและซ่อมแซมไฟล์ของระบบ
  2. เครื่องมือของบุคคลที่สาม: พิจารณาใช้เครื่องมือ เช่น MemTest86 สำหรับการวิเคราะห์หน่วยความจำและ CrystalDiskInfo สำหรับการตรวจสุขภาพของฮาร์ดไดรฟ์

เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการกระตุกในอนาคต

การป้องกันการกระตุกของคอมพิวเตอร์ในอนาคตช่วยรักษาประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

  1. การบำรุงรักษาเป็นประจำ: ทำการอัปเดตซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เป็นประจำ
  2. การสแกนเป็นประจำ: ดำเนินการสแกนไวรัสและการล้างดิสก์อย่างสม่ำเสมอ
  3. การเพิ่มประสิทธิภาพโปรแกรมเริ่มต้น: ปิดใช้งานโปรแกรมที่ไม่จำเป็นในการเริ่มต้นเพื่อลดเวลาการบูตและลดภาระของระบบ

บทสรุป

การแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ที่กระตุกต้องใช้แนวทางที่ครอบคลุม ซึ่งรวมทั้งวิธีแก้ไขซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ด้วยการเข้าใจสาเหตุและการใช้วิธีแก้ไขที่ให้มา คุณสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่ราบรื่นบนอุปกรณ์ของคุณ อีกทั้งการบำรุงรักษาและการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอยังเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันปัญหาประสิทธิภาพในอนาคต

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมคอมพิวเตอร์ของฉันถึงกระตุกระหว่างเล่นเกม?

การกระตุกระหว่างเล่นเกมสามารถเกิดจากไดร์เวอร์กราฟิกที่ล้าสมัย, RAM ไม่เพียงพอ, หรือการใช้งาน CPU สูงจากกระบวนการที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง

การร้อนขึ้นสามารถทำให้คอมพิวเตอร์กระตุกได้หรือไม่?

ได้, การร้อนเกินไปสามารถทำให้เกิดการกระตุกได้เนื่องจากการลดประสิทธิภาพของ CPU และ GPU เพื่อป้องกันความเสียหาย

ฉันควรตรวจสอบการอัปเดตไดรเวอร์บ่อยแค่ไหน?

ขอแนะนำให้ตรวจสอบการอัปเดตไดรเวอร์อย่างน้อยเดือนละครั้งหรือเมื่อคุณพบปัญหาด้านประสิทธิภาพ

วิธีใช้จอภาพ HP ซีรีส์ 524SW โดยไม่ใช้ CPU
Next Post
วิธีใช้จอภาพ HP ซีรีส์ 524sw โดยไม่ต้องใช้ซีพียู
15 49.0138 8.38624 1 0 4000 1 /th 300 0